การเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มาคู่กับธุรกิจ เพราะการเปลี่ยนแปลงเกินขึ้นได้เสมอดังนั้นการปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ จากที่เราเห็นในปัจจุบันตั้งแต่ Covid-19 เข้ามา วิถีชีวิตของคนทั้งโลกเปลี่ยนไป ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและธุรกิจมากมายทำให้ตอนนี้หลายองค์กรหันมาสนใจแนวคิด Lean มากขึ้น วันนี้ MarketingGuru จึงพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Lean กันมากยิ่งขึ้น
Lean เป็นหลักการที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เริ่มจากธุรกิจรถยนต์ ที่ย้อนกลับไปตอนนั้นบริษัทผลิตรถยนต์ ฟอร์ดนับเป็นอันดับหนึ่งด้านการผลิตรถยนต์เลยก็ว่าได้ จนเหล่าผู้บริหารต่างพากันไปดูงานที่นั่น รวมถึงผู้บริหารของ Toyota เองด้วย แต่เมื่อกลับมาเขาไม่ได้ดำเนินการตามบริษัทฟอร์ดเสียทีเดียว ด้วยปัจจัยแวดล้อมที่ต่างกันจึงเกิดออกมาเป็นแนวคิด Just in Time หรือ JIT ในแรกเริ่ม ส่วนชื่อ Lean นั้นมาจากไหนวิกฤตน้ำมันใน 1973 ที่ส่งผลให้ธุรกิจยานตร์ขาดทุนกันกระจายไม่เว้นแม้กระทั่งเจ้าพอใหญ่อย่างฟอร์ด ในทางกลับกัน Toyota ยังสามารถทำกำไรได้ด้วยการบริหารงานแบบ Lean
แบบไหนถึงเรียกว่า Lean?
นิยามของ Lean คือองค์กรที่มีความกระฉับกระเฉง มีระบบผลิตงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นั่นหมายความว่าจะไม่มีการทำงานใด ๆ ที่สูญเปล่า เรียกได้ว่า เพรียวไร้ไขมันกันเลยทีเดียว ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจผิดว่าถ้าองค์กรบริหารงานแบบ Lean หมายถึงพนักงานจะต้องทำงานหนักขึ้น เร็วขึ้น เปล่าเลยบริษัทแค่ต้องหาจุดที่เป็นความสูญเปล่าหรือส่วนที่ทำงานแล้วมันไม่มีประสิทธิภาพแล้วตัดออกไป โดยยึดหลักการ
ลดต้นทุน ลดความสูญเสีย เพิ่มคุณค่า และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เพราะ Lean จะทำแต่ของดีออกมาในปริมาณที่พอดีและมีประสิทธิภาพ
โดยมี 3 ลักษณะสำคัญที่จะทำให้องค์กรของคุณ Lean
1️⃣ ต้องมีการทำงานที่คล่องตัว ยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพ
2️⃣ นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน
3️⃣บุคลากรทุกระดับต้องมีทักษะรอบด้าน
How to be lean?
หากองค์กรของคุณ Lean นั่นหมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องจ้างคนเยอะ แต่ยังได้งานที่มีคุณภาพ แล้วทำยังไงองค์กรเราถึงจะ Lean ล่ะ
คน สิ่งสำคัญมาก ๆ ที่จะต้องอธิบายให้พนักงานเข้าใจถึงหลักการ Lean พร้อมกับว่าตนควรดำเนินงานอย่างไรเพื่อให้สอดรับกับการที่บริษัทกำลังจะบริหารงานแบบ Lean จะทำให้ทั้งองค์กรสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและมีความเท่าเทียมในภาระงาน
การทำงาน ปรับวิธีการทำงาน การบริหารจัดการ การแก้ปัญหา เป็นการต้องมองระบบทั้งภาพรวมและแยกส่วนว่าความสูญเปล่าอยู่ไหน แล้วกำจัดมันซึ่งความสูญเปล่าที่ว่าตามหนังสือวิถีแห่งโตโยต้าของเจฟฟรีย์ ไลเคอร์ (Jeffrey Liker) 4 ประการดังนี้
- งานที่ต้องแก้ไข (Defect) นับเป็นความสูญเสียที่ต้องเสียเวลาและแรงงานมากขึ้น หากเราผลิตผลงานหรือสินค้ามีประสิทธิภาพตั้งแต่แรกก็จะลดลงได้
- ผลิตสินค้าหรือบริการออกมาเกินความต้องการ (Over production)
- การรอคอย (Waiting) เป็นอีกหนึ่งความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจบริการที่การรอคอยจะนำมาซึ่งต้นทุนแฝงอีกอื่น ๆ
- ความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ (Non-utilized talent, Ideas, Creative) จนทำให้ องค์กรไม่ขยับไปข้างหน้า เพราะไม่ได้ฟังเสียงของพนักงานที่มีไอเดียมาเสนอ ความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์กับบริษัทก็จะสูญเปล่าไป
หลักการ Lean นับเป็นหลักการที่น่าสนใจมาก ๆ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่เเต่ละองค์กรต้องการเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงาน รวมไปถึงต้องการพนักงานที่มีความสามารถเเต่ในการทำงานบางอย่างอาจต้องอาศัยกลุ่มคน เช่นในการต้องการเพิ่มยอด ทำการตลาดออนไลน์ที่สามารถช่วยได้ หากไปจ้างคนเพิ่มก็อาจะต้องจ้างทีมงานเพิ่มอีก 1 ทีมซึ่งอาจต้องใช้เวลาเเละงบประมาณเพิ่มขึ้น
โดยคุณอาจ Lean องค์กรได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้บริการ Outsource หรือ Agency เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะได้ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยิ่งไปกว่านั้นยังประหยัดงบประมาณมากกว่าการจ้างคนเพิ่มมาทำ In-house ในบริษัทด้วย และสำคัญใครที่กำลังมองหาตัวช่วยที่จะเพิ่มยอดขาย หรือมองหา Digital marketing agency สามารถทักมาปรึกษาทีมงาน MarketingGuru ได้นะคะ