ChatGPT กับ Content Marketing 2023

ChatGPTกับทิศทางคอนเทนต์ 2023

ChatGPT กับ Content Marketing 2023

ChatGPT เครื่องมือสร้างคอนเทนต์โดยระบบ AI  ที่มีผู้ลองเข้าใช้งานมากถึง 100 ล้านกว่าคนภายใน 2 เดือนหลังจากเปิดตัว สร้างความฮือฮาให้กับวงการนักเขียนคอนเทนต์ เมื่อบริษัทต่างๆนำเจ้าเครื่องมือนี้เข้ามามีส่วนช่วยในการผลิตคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ ในฐานะอีกหนึ่งผู้ให้บริการด้าน digital marketing Margettingguru จึงนำบทความวิเคราะห์แนวทางคอนเทนต์ต่างๆ ในปี 2023 มาฝากกัน

Content Marketing กับ Chatgpt

คอนเทนต์มาเก็ตติ้ง คือ การที่แบรนด์สื่อข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยให้คอนเทนต์เป็นสื่อกลางตามจุดประสงค์ต่างๆ เช่น เพิ่มยอดขาย จำนวนผู้ติดตาม หรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ลูกเค้าได้รับรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการมากขึ้น นอกจากนี้คอนเทนต์ยังมีความแตกต่างตามแต่ละช่องทางในการโพสต์

การนำโปรแกรม AI อย่าง Chatgpt หรือที่ย่อมาจาก Generative Pre-trained Transformer  ที่ใช้โมเดลภาษาที่มนุษย์ในการประมวลผลผ่านทางบทสนทนา เพื่อผลิตเนื้อหารูปแบบต่างๆ จะช่วยให้ Content marketing ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทิศทางการเขียนคอนเทนต์ในปี 2023

  1. วิวัฒนาการใหม่ของคอนเทนต์

Chatgpt ได้เข้ามาตอบโจทย์ในการเขียนอีเมล บทความ เรซูเม่ สูตรอาหารหรือสคริปต์ต่างๆ ผ่านการโต้ตอบกับผู้ใช้งาน พร้อมทั้งมอบคำแนะนำ และเนื้อหา ที่ปรับมาจากความต้องการของลูกค้า โดยสามารถกำหนดได้ว่าต้องการเขียนเพื่อกลุ่มไหน ระดับภาษา เช่น Business langauge หรือ Academic ไปใช้ในงานทางธุรกิจมากขึ้น จากแต่เดิมที่ Content marketing จะเน้นผลิตเนื้อหาเพื่อดึงดูดลูกค้าในช่องทางโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว  

2. AI Chatbot โปรแกรมแช็ตสนทนาสุดแจ๋ว

ผู้ใช้งานสามารถขอข้อมูลที่ insightful ผ่านแช็ตสนทนาใน Chatgpt ในหัวข้อต่างๆ ให้ผลิตเนื้อหาตรงตามที่ต้องการได้ ทั้งนี้ ผู้เขียนควรจะอ่าน และปรับโทนของเนื้อหาให้เป็นธรรมชาติ กระชับ เพื่อเข้าใจง่าย นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เครื่องมือสอบถามคีย์เวิร์ด เช็คไวยากรณ์ผ่านทางบทสนทนาได้อีกด้วย

3. กังวลจน Overoptimized

บางครั้งการใช้ คีย์เวิร์ดมากจนเกินไป (keyword density) ทำให้เนื้อหาเข้าใจยาก อ่านแล้วไม่สมูท Google ต้องออกกฎบังคับใหม่ เพื่อให้เหล่าครีเอเตอร์พิจารณาให้การคิดคอนเทนต์มากขึ้น เพราะกูเกิ้ลมองว่า เนื้อหาควรจะสร้างเพื่อให้ประโยชน์ ความรู้แก้ผู้ใช้งานมากกว่าเครื่องมืออย่าง search engine ดังนั้น นักการตลาดและทีมควรที่จะปรึกษา หาข้อมูลก่อนลงมือเขียน โดยพิจารณาจากคีย์เวิร์ด จุดประสงค์ในการอ่าน หรือเปรียบเทียบเนื้อหาจากแหล่งอื่นที่มีหัวข้อใกล้เคียงกัน

4. การสร้างความแตกต่าง (Differentiation)

แต่ละแบรนด์ย่อมอยากสร้างความโดดเด่น ความเป็นเอกลักษณ์ต่างจากแบรนด์อื่นๆ เนื่องจากคอนเทนต์ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยสื่อจุดประสงค์ไปให้ถึงผู้รับสาร การสร้างคอนเทนต์ที่แตกต่าง จึงอาศัยความคิดสร้างสรรค์ ข้อมูลเฉพาะ รูปแบบการนำเสนอ ทั้งนี้ เรา content framework ให้ชัดเจน

5. รูปแบบภาพและสื่อวิดีโอ

ในปี 2023 นี้ต้องยอมรับว่า แพลตฟอร์มอย่าง Tiktok หรือ Instagram Reels ได้เปลี่ยนวิถีการเสพสื่อของผู้คนทั่วโลก Short video นับได้ว่าเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพที่สุดในยุคนี้ ง่ายต่อการโปรโมตและแชร์ไปยังแอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มต่างๆ อย่างไรก็ตามรูปแบบ Short video อาจจะไม่ได้เหมาะกับสินค้าหรือบริการทุกชนิดเสมอไป อีกทั้งแบรนด์หรือบริการที่เน้นการขายบนเว็บไซต์เป็นหลัก กลยุทธ์ Content marketing อาจเหมาะกับเนื้อหา long-form อย่างการเขียนบล็อกมากกว่า

6. ทำความเข้าใจกับเครื่องมือ

ต่อให้เทคโนโลยีใหม่ๆ จะเข้ามามีส่วนช่วยมากแค่ไหน ก็ต้องทำความเข้าใจขอบเขตที่สามารถสั่งการได้  เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและคำตอบที่ต้องการ แล้วจึงนำมาปรับอีกครั้งก่อนพับลิชเนื้อหา ยิ่งถ้ากรณีเขียนบนเว็บไซต์ ก็สามารถใช้เครื่องมืออื่นควบคู่ไปด้วย เพื่อเช็คว่าเมื่ออยู่บน SERPs แล้วเนื้อหาหน้าตาเป็นอย่างไร 

7. ห้ามหลุดโฟกัส

โฟกัสที่ดีจะช่วยกำหนดทิศทางในการเขียน เรียงลำดับเนื้อหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน อ่านแล้วเข้าใจ ผู้อ่านได้ประโยชน์ หรือรับสารตามที่ต้องการจะสื่อ  ดังนั้น จุดโฟกัสเป็นสิ่งที่ช่วยให้คอนเทนต์ออกมาดีมีคุณภาพ ตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย 

8. ความสม่ำเสมอ และคุณค่า (value)

ความสม่ำเสมอในการลงคอนเทนต์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องคำนึงในการทำ Content marketing สำหรับเจ้าของแบรนด์ ที่ต้องการให้แบรนด์บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่อย่าลืมว่า คุณภาพ ควรมาก่อน ปริมาณเสมอ เนื้อหาควรมีคุณค่าให้กับผู้อ่าน โดยสามารถคำนึงถึง

  • หัวข้อ เนื้อหาที่ตรงการนำเสนอ 
  • โทน เสียง มู้ด เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย
  • รูปแบบที่ใช้นำเสนอ เช่น บล็อก หรือวิดีโอ
  • กำหนดวัด performance เช่น traffic, bounce rates, engagements, conversions เป็นต้น

9. Intelligent Automation

หลายคนอาจสงสัยเทคโนโลยี IA (Intelligent Automation) อย่าง chatbots gpt ที่เข้าใจภาษามนุษย์จะช่วยอะไรได้บ้าง เจ้าเทคโนโลยีประหยัดเวลาและแม่นยำนี้จะตรวจสอบแก้ไขจุดผิดพลาด ทั้งเนื้อหา text ธรรมดาทั่วไป คณิตศาสตร์ หรือภาษาโค้ด

10. มนุษย์ vs เครื่องมือ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ผู้อ่านอาจพบว่า Chatgpt มีข้อดีมากมายเต็มไปหมด อย่างไรก็ตาม เครื่องมือก็ไม่สามารถทดแทนทักษะ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ ในการสรรร์สร้างคอนเทนต์ของมนุษย์ได้ทั้งหมด เพียงแต่มาช่วยเสริมประสิทธิภาพและปรับปรุงภาพรวมของงานเท่านั้น

ท้ายนี้ ทาง Marketingguru ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านหลายๆ ท่านเข้าใจแนวทางการเขียนโดยประยุกต์ใช้ ChatGPT เป็นตัวช่วยในยุคที่มีการแข่งขันสูง หากต้องการปรึกษาเกี่ยวกับ Content marketing หรืองานบริการบทความดีๆ ด้วยเครื่องมือ SEO นึกถึง Marketingguru นะคะ 🙂

ขอบคุณที่มา: SEO Journal

tiktok

TikTok’s Marketing Plan for Year 2021 in Thailand

TikTok, a social short video sharing application from Chinese technology titans ByteDance has already been in Thailand for a full year. The application has made waves in Thailand with an astonishing 1 in 7 people having downloaded the application. TikTok in Thailand is also ranked in the top 3 of countries with the highest growths in South East Asia. This growth was an exponential one with the number of users growing over 100% in the past year. The success and growth of TikTok in Thailand can be attributed to the market readiness of Thailand’s market, with a higher than regional average mobile internet usage.

Year 2020 will mark TikTok’s 2nd year in Thailand. On the 24th of February, the Thai management team has released and announced their company’s vision for expanding TikTok’s business in Thailand. This news is especially important to marketers looking to expand their businesses in Thailand. TikTok’s exponential growth could potentially propel them as the most popular social media platform of choice in Thailand

Building an Ecosystem for TikTok to Achieve Sustainable Growth

TikTok Thailand’s head of Marketing, Mr Pakorn Wattanachaloemwutikon has set his sights on helping create a strong ecosystem for TikTok in order for the company to sustain its strong growth. To accomplish this, he has set out three strategies:

TikTok’s Head of Marketing, Pakorn Wattanachaloemwutikon

1. Content Diversification

TikTok intends to reach out and target the needs of users of all age groups rather than to focus on specifically the age group that they are popular with. They plan to create a wider variety of content while maintaining its short video content style. The focus here is on having a wide variety of content and interests so that more people will be engaged by the platform. This implies that TikTok will very likely become a platform that marketers can use to target not just the youths, but also people of other age groups.

” TikTok will very likely become a platform that marketers can use to target not just the youths, but also people of other age groups. “

2. Monetization

TikTok are also looking at developing models for revenue generation through various formats of advertising on their platform. This is a step worth looking out for as a digital marketer especially when you’re looking to penetrate the Thailand market as this opens up opportunities for you to advertise on this platform. The ultimate goal for TikTok’s part would be to create a new dimension and platform for digital marketing in Thailand.

3. Brand Building

This strategy refers to creating and developing TikTok as a secure platform that gains consumer confidence through the creation of Digital Wellbeing. Digital Wellbeing allows parents for young children to set controls and permissions as to what kinds of content they are allowed to consumer as well as how long they are permitted to use it. These brand safety implementations can only help TikTok be seen by the public as a family-oriented and socially responsible corporation. Making it more reasons for you to advertise on this platform.

Thailand’s TikTok Usage

Thailand consumers are known to spend large amounts of time on the internet. TikTok’s statistics has shown that Thailand TikTok users average about 35 minutes a day using TikTok. The figure is higher than the global average . In addition to this, TikTok has also revealed that Thai people average 4 uses of TikTok a day with 2 peak times. The peak times are before bed and during lunch hours.

Similar Growth in Gen Y and Gen Z

Ms. Laksamichong , Content Development and Campaign Manager

Content development and campaign manager for TikTok, Ms. Laksamichong has shared interesting insights about the demographic of TikTok users in Thailandd. Currently, the bulk of TikTok users are of similar age groups. The 2 age groups of Gen Z (people aged 17-22 years) and Gen Y (people aged 22-38 years), have roughly similar numbers in terms of users and are the ones who use TikTok the most. From this we can see alignment with the earlier mentioned strategy of targeting more than just one age group through content variety. What is interesting is that the majority of users in Thailand are women, totaling for 75% of its users and 25% are men.

Georgraphy-wise, Thailand’s TikTok users mostly live in Bangkok. Other major cities that have a good volume of TikTok users include: Pattaya, Chiang Mai, Khon Kaen and Nakhon Ratchasima.

Popular Content Types

80% of users in TikTok are also classified as students, young adults and pupils, which also mean that they are considered “future spending users”. This makes them a very attractive group to target when it comes to trying to build your company’s branding on the TikTok app platform. The type of content that appeals to them are therefore content that must look stylish and modern. According to TikTok, the 5 most popular content genres are:

  1. Talent – Where people showcase what they can do with the app or any form of talent to wow and amaze people
  2. Comedy – Short videos meant to make people laugh, much like what Vine used to be
  3. Food, Drink and Travel – These are videos that show people going to exotic places or eating and cooking videos
  4. Basic Dance – Dances that are relatively easy to learn and follow
  5. Beauty and Fashion – Content relevant to fashion trends, fashion styles or even reviews.

With these content types in mind, marketers are more able to make decisions with regard to the type of content that they want to introduce to help advertise and expose their product. TikTok has also announced its intent to support existing campaigns such as “Keep Fit” and “TikTok Tutor”, both educational and informative programs aimed at bettering the lives of its users.

TikTok’s Plans on Focusing to Monetize the App

In 2020, Mr. Thanaphon Apasitthanan, Director of Revenue Development declared that TikTok’s plan for generating revenue this year will be based on increasing advertising sales.

Right now on TikTok’s platform, there are 5 different types of advertising space namely:

  • Brand Takeover

A short video that users will see immediately when they open TikTok’s app

  •  TopView

An advertising video that lasts 60 seconds longer than a normal one

  • In-Feed Ads

Ads that will be displayed and played to users as they scroll through their video feed

  • Hashtag Challenge

A unique way to engage and advertise to viewers by creating challenges to incentivize and engage viewers into creating viral videos for your campaign

  • Branded Effect

This one is interesting. TikTok uses AI technology to detect user’s behavior and patterns when using the app, to create various effects along the users’ journey. The main point of this is to make it such that the advertising will seem subtle and seamless, making it non disruptive for the users.

ชวนมาอัปเดตไลน์ฟีเจอร์ ในปี 2020 นี้ ว่าอะไรใหม่บ้าง

ถ้าคุณเริ่มต้นใช้ LINE มาตั้งแต่ยุคที่พึ่งเปิดตัวแล้วละก็ จะสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่ต่างไปจากเดิมมากพอสมควร เพราะในทุก ๆ ปี LINE จะมีการอัปเดตไลน์และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา ลองนึกภาพย้อนไปเพียงแค่ปีที่แล้ว (2019) กับการที่ LINE ได้เปิดตัวฟีเจอร์หลายตัวที่ทั้งน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น LINE Story ฟีเจอร์ที่สามารถโพสต์ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ โดยสิ่งที่โพสต์ไปนั้นจะหายไปใน 24 ชั่วโมง, LINE Open Chat ห้องสนทนาแบบกลุ่มที่รองรับการสนทนาคนจำนวนมาก เป็นกลุ่มที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน และ LINE Shopping แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่รวบรวมมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ชั้นนำมาไว้ในที่เดียว


และในปีนี้ 2020 ความต้องการที่อยากพัฒนาแอปพลิเคชันของ LINE ก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด มีแต่จะทวีความมากขึ้นในทุกวัน เพราะในปีนี้ LINE ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ ออกมาให้เราใช้อย่างมากมายไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยทีเดียว และต้องบอกเลยว่าเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานในปัจจุบันอย่างมาก นอกจากนี้ยังรองรับกับกระแส New Normal หรือ วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ ได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว

สำหรับฟีเจอร์ใหม่ในปี 2020 ที่เราจะนำมาพูดกันวันนี้ ได้แก่ โควิด-19 อินโฟ ฮับ, LINE Keep Memo, LINE MEETING และ Profile Deco รายละเอียดจะเป็นอย่างไรเราไปทำความรู้จักกันเลย…

โควิด-19 อินโฟ ฮับ


เริ่มอัปเดตไลน์ฟีเจอร์เเรกช่วงต้นปี 2020 ก็เริ่มด้วยวิกฤติโรคระบาดที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเมื่อปลายเดือนมีนาคม LINE ประเทศไทย เพิ่มแท็บเมนู “โควิด-19 อินโฟ ฮับ” บนหน้าแรกของ LINE ประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์รวมข่าวสารความเคลื่อนไหว และข่าวสารอัปเดตที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส เพื่อช่วยเหลือประชาชนคนไทยในช่วงวิกฤติได้อย่างทันท่วงที
โดยมีบริการให้ข้อมูลข่าวสารที่ครอบคลุม ตั้งแต่ สถิติการระบาด COVID-19, แบบประเมินสุขภาพ, อัปเดตสถานการณ์, โรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง, เช็คพื้นที่เสี่ยง และ LINE Tips เพื่อเป็นข้อมูลให้กับประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร เตรียมตัวรับมือ และป้องกันตัวเอง

LINE Keep Memo


ถัดมาที่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม LINE ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ สำหรับผู้ที่ชอบทักแชทไปหาคนอื่นเพื่อฝากไฟล์หรือข้อมูลต่าง ๆ นั่นคือ “LINE Keep Memo” ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามาถส่งข้อความหาตัวเองได้ หรือจะฝากไฟล์งาน ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือลิงก์ต่าง ๆ เพื่อเก็บไว้ดู หรือนำออกมาใช้ในภายหลัง โดยจะมีเพียงเจ้าของห้องแชทเท่านั้นที่สามารถดูข้อมูลได้ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ตรงที่ LINE Keep Memo สามารถเก็บข้อมูลได้เพียง 1 GB เท่านั้น


สำหรับข้อดีของการฝากไฟล์นั้นจะเป็นการช่วยเตือนความจำให้กับเราได้ และบางครั้งหากเราไม่สะดวกที่จะเปิดไฟล์ใน Smart Phone เราก็สามารถฝากไฟล์ไว้ที่ห้องแชท เพื่อที่จะนำไฟล์นั้น ๆ ไปเปิดบนคอมพิวเตอร์ได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

LINE MEETING และ Profile Deco


ล่าสุดเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา LINE ได้อัปเดตไลน์ฟีเจอร์ใหม่ออกมาพร้อมกัน 2 อย่างคือ LINE MEETING และ Profile Deco สำหรับ LINE MEETING เป็นฟีเจอร์การประชุม ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงาน Work from Home โดยผู้ใช้สามารถประชุมร่วมกันผ่านไลน์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องแอดเพื่อน สร้างห้องสนทนา หรือเชิญเข้ากลุ่มแต่อย่างใด เพียงแค่กดเข้าลิงก์ URL ก็สามารถเข้าร่วมประชุม Call บน LINE ได้เลย


นอกจากนี้ ตอนกำลังประชุมยังสามารถย่อหน้าจอลงเพื่อมาตอบแชทในห้องแชทสำหรับการประชุมนั้น ขณะที่ห้องประชุมห้องนึง สามารถรองรับการใช้งานได้ทั้งบน Smart Phone และคอมพิวเตอร์ ได้มากสุด 500 คน และยังมีฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Watch Together ที่สามารถแชร์หน้าจอ หรือดูวิดีโอร่วมกันได้ระหว่างการประชุม

Profile Deco เอาใจคนรักการออกแบบ ด้วยฟีเจอร์ตกแต่งหน้าโปรไฟล์ คุณสามารถสร้างสรรค์พื้นที่โปรไฟล์ของคุณได้อย่างเต็มที่และเป็นตัวของตัวเอง ด้วยเครื่องมือและไอเทมตกแต่งจาก LINE หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นธีมสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน สติกเกอร์ลายต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเครื่อง ข้อความ และวิดเจ็ทต่าง ๆ ที่สามารถใช้ได้ ไม่เพียงเท่านี้ เมื่อตกแต่งหน้าโปรไฟล์เสร็จ ก็สามารถอวดโฉมให้เพื่อนรู้ผ่านสตอรี่บนไทม์ไลน์ได้อีกด้วย ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม LINE ถึงมีการคิดค้นและพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนแอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ เพราะจากสถิติชี้ว่า LINE เป็นแพลตฟอร์มแชท ที่มีจำนวนผู้ใช้มากที่สุดในประเทศไทย ด้วยจำนวนผู้ใช้กว่า 45 ล้านบัญชี จากจำนวนประชากรในประเทศไทยกว่า 69 ล้านคน โดยเฉลี่ยในแต่ละวันคนไทยใช้เวลาไปกับ LINE ราว 63 นาที

ฉะนั้นการที่ LINE จะอัปเดต หรือมีการเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์อะไรใหม่ ๆ จึงไม่ใช่เรื่องที่แปลก แต่นับเป็นเรื่องดี ที่ทาง LINE มีการอัปเดตไลน์ฟีเจอร์ พัฒนาและปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อให้แอปพลิเคชันเกิดประโยชน์และรองรับกับความต้องการของผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากฟังก์ชันเสริมที่ LINE ได้คิดค้นมาจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว ยังช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถขายของได้ง่ายขึ้น ดูเป็นมืออาชีพ และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าได้อีกด้วย จากนี้ต่อไป เราคงต้องมาลุ้นกันว่า LINE จะคิดค้นฟีเจอร์อะไรใหม่ ๆ เพื่อมารองรับกับยุคกระแส New Normal ให้เราได้ทดลองใช้กันบ้าง และแน่นอนว่า MarketingGuru ไม่พลาดที่จำนำข่าวสารมาแชร์ให้กับทุกคนอย่างแน่นอน


สำหรับใครที่สนใจทำการตลาดออนไลน์ผ่านช่องทาง LINE สามารถติดต่อเพื่อขอรับคำปรึกษาจาก MarketingGuru ได้ฟรี คลิก m.me/marketingguru.io หรือโทร 02-381-9045